วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2561

 เด็กจากซานติอาโก้ เมืองหลวงของประเทศชิลี เกิดในสังคมชนชั้นแรงงาน โดยความสัมพันธ์ภายในครอบครัวยังไม่ค่อยสู้ดี เมื่อคุณพ่อติดเหล้าอย่างหนัก ขณะที่คุณแม่ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ ด้วยการเป็นพนักงานทำความสะอาด โดยสิ่งที่จะพอเยียวยาจิตใจ ในความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิตได้ นั่นคือการเล่นฟุตบอล
"หลานของผมมีลูกฟุตบอลอยู่ที่เท้าตลอดเวลา" วิคเตอร์ ซึ่งเป็นคุณลุงเริ่มกล่าวถึงเขา "เขาชอบเล่นฟุตบอลเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า หายใจเข้า และหายใจออกเป็นฟุตบอลเลยทีเดียว เขาเล่นทั้งช่วงก่อนไปโรงเรียน, พักเที่ยง และหลังเลิกเรียน"
แน่นอนว่า ความฝันสูงสุดของเขาคือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เพื่อให้ครอบครัวมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตอนที่อายุ 15 ปี เขาให้คำมั่นสัญญากับแม่ว่า จะหาเงินจากวงการลูกหนัง และไม่ต้องให้เธอต้องทำงานหนักอีกแล้ว แน่นอนว่า เขาทำได้อย่างที่พูด ด้วยการเป็นนักเตะเยาวชน และขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของโคโล โคโล่ สโมสรที่เป็นยักษ์ใหญ่สุดของประเทศ
"ตั้งแต่เขาเกิด สิ่งรอบข้างมันช่างเลวร้าย" ราม่อน เฮนริเกซ เพื่อนบ้านที่เห็นพัฒนาการของเขามาตั้งแต่วัยเยาว์กล่าวบ้าง "แม่ของเขาทำงานอย่างหนัก เพื่อให้แน่ใจว่า ลูกชายของเธอจะมีครบทุกอย่าง เธอเสียสละเป็นอย่างมาก เป็นเสาหลักเลยก็ว่าได้ ที่บ้านของพวกเขาไม่เคยขาดอาหาร แต่ก็ไม่มีเงินทองมากมายที่จะทำอย่างอื่น"
เฮนริเกซ เล่าต่อว่า "เมื่อเขาได้รับเงินก้อนแรก จากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของโคโล โคโล่ เขาพาแม่ไปซูเปอร์มาร์เก็ต และซื้อทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า !!!"
กระทั่งในปี 2007 เขาย้ายไปเล่นในยุโรปครั้งแรก พร้อมกับบอกกับแม่พร้อมน้ำตาว่า -แม่ครับ เราจะเป็นมหาเศรษฐีกันแล้วนะ- และเป็นเวลากว่าทศวรรษที่เขาโลดแล่นอยู่ในยุโรป ทำงานหาเงินซื้อบ้านหลังใหม่ให้แม่ เพื่อเป็นการตอบแทนความยากลำบากที่เลี้ยงดูเขามาจนโต
แม้จะกลายเป็นนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ ทว่าเขาไม่เคยลืมบ้านเกิดเมืองนอน โดยเฮนริเกซ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "เขาไม่เคยลืมพวกเราเลย เมื่อเขากลับมาที่ประเทศชิลี เขาจะกลับมาบ้านเสมอ เขาซื้อตั๋วให้เรา เพื่อเดินทางไปชมการแข่งขันถึงเมืองตูริน (สมัยที่เล่นกับยูเวนตุส)" ขณะที่คุณลุงยืนยันคำพูดดังกล่าวว่า "เขายังเป็นคนเดิมเสมอมา ชอบช่วยเหลือครอบครัว ช่วยเหลือเพื่อน และช่วยเหลือคนอื่น"
คำบอกเล่าไม่เกินจริงเลย เมื่อวันนี้, เขาได้ย้ายมาเล่นกับสโมสรชั้นนำอย่างบาร์เซโลน่า พร้อมกับนำลูกชายสุดที่รักมาร่วมงานเปิดตัวด้วย เขาพยายามเป็นพ่อที่ดีที่สุด เพราะรู้ดีว่า การขาดความรัก และความอบอุ่นในวัยเด็กเป็นอย่างไร
เรื่องราวที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบคือ ลูกของเขาป่วยเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 1, ท่ามกลางรอยสักทั่วร่างกาย เขามีน้ำหมึกรูป "เครื่องปั๊มอินซูลิน" ที่ใช้ในผู้ป่วยโรคเบาหวานอยู่บริเวณหน้าท้อง เพื่อเป็นการให้กำลังใจลูกชาย และช่วยรณรงค์ให้คนในชิลี หันมาเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพของเด็กให้ดียิ่งขึ้น
"แม่สอนผมเสมอว่า จงหนักแน่นกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงมือทำ และลงมือต่อสู้ เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ, ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อม หรือการแข่งขันจริง มันไม่มีอะไรแตกต่างหรอก ผมวิ่งลืมตาย และต้องการชัยชนะ มันก็เหมือนกับชีวิตจริงของผมนั่นแหล่ะ" 
#อาร์ตูโร่ วิดัล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น